เว็บเบราว์เซอร์ (Web Browser) คือ โปรแกรมที่ใช้สำหรับการแสดงผลการทำงานของเว็บที่สร้างด้วย
ภาษาเฉพาะ เช่น HTML CSS หรือ Javascript เป็นต้น ผู้ใช้สามารถดูข้อมูลและโต้ตอบกับข้อมูลสารสนเทศที่
จัดเก็บในเว็บเพจเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเองได้ ผู้ใช้งานต้องเชื่อมต่อไปยังเว็บเซิร์ฟเวอร์เพื่อร้องขอ
เว็บไซต์มาแสดงผลยังเว็บเบราว์เซอร์ และ การร้องขอเว็บไซต์จากเว็บเซิร์ฟเวอร์จะติดต่อกันโดยใช้ HTTP โปร-
โตคอล ตัวอย่างโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์เช่น Google Chrome, FireFox, Opera, Microsoft Edge เป็นต้น
เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) คือ คอมพิวเตอร์ที่คอยให้บริการผู้ใช้งาน โดยจะเก็บรวมรวมไฟล์และ คำสั่งต่างๆ ที่มีนามสกุล เช่น .html, .css หรือ .js เป็นต้น ไฟล์ดังกล่าวจะถูกตอบสนองกลับไปแสดงผลที่เว็บ เบราว์เซอร์
API Server ทำหน้าที่ จัดการควบคุมการใช้งานข้อมูลของผู้ใช้งาน การควบคุมผู้ใช้งานในระดับที่แตก ต่างกัน เช่น ผู้ใช้งานทั่วไป กับ ผู้ใช้งานที่มีสิทธิเป็นผู้ดูแลระบบ มีสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่แตกต่างกัน กรณีที่ใช้ งานระบบร่วมกับผู้อื่น และ เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานกับข้อมูลที่นำมาใช้งานในส่วนๆ หนึ่งของ เว็บเพจ
Application Programming Interface (API) คือ ช่องทางการเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล จาก ระบบหนึ่งไปสู่ระบบอื่นๆ โดยผ่าน library (Function/module/utility)ของผู้สร้างหรือให้บริการ API เพื่อให้ ผู้พัฒนาระบบอื่นๆ สามารถเชื่อมต่อกับ API ของผู้ที่เปิดให้บริการได้
สำหรับนักพัฒนา API ก็คือรูปแบบคำสั่งที่นักพัฒนาจะต้องเรียกใช้เมื่อ ต้องการเข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ ที่มีการเปิด API ไว้ให้ การเข้าถึงข้อมูลอาจเป็นทั้งการนำข้อมูลออกมา หรือเป็น การส่งข้อมูลเข้าไปก็ได้ API จึงเป็นเสมือนภาษาที่คอมพิวเตอร์ใช้คุยกับคอมพิวเตอร์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ระหว่าง Server กับ Client หรือ Server กับ Server ด้วย
ข้อดีของ API
1. ทำให้สามารถรับส่งหรือเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข้าม Server ได้
• ทำให้ Front-end developer สามารถเขียน AJAX ไปเรียกข้อมูลเอาไปแสดงผลได้เลย
• การ query ข้อมูลจากฐานข้อมูลนักพัฒนารู้แค่ว่าเมื่ออยากได้ข้อมูลต้อง request ไปที่ไหนและ return อะไรมาก็สามารถดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลได้ไม่ต้องเขียนคำสั่ง SQL
• นักพัฒนาฝั่ง Front-end และ Back-end จริงๆ แล้วก็สามารถทำงาน parallel กันไปได้ โดยไม่ ต้องรอกัน
2. ทำให้ผู้พัฒนาระบบสามารถพัฒนาได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
• ทำให้ Front-end developer สามารถเขียน AJAX ไปเรียกข้อมูลเอาไปแสดงผลได้เลย
• การ query ข้อมูลจากฐานข้อมูลนักพัฒนารู้แค่ว่าเมื่ออยากได้ข้อมูลต้อง request ไปที่ไหนและ return อะไรมาก็สามารถดึงข้อมูลจากญานข้อมูลได้ไม่ต้องเขียนคำสั่ง SQL
• นักพัฒนาฝั่ง Front-end และ Back-end จริงๆ แล้วก็สามารถทำงาน parallel กันไปได้ โดยไม่ ต้องรอกัน
3. เสริมความปลอดภัยแก้ข้อมูลของตนเองในการแชร์ให้ผู้อื่น เพราะไม่ได้เข้าถึงฐานข้อมูลโดยตรง
เว็บเซิร์ฟเวอร์ (Web Server) คือ คอมพิวเตอร์ที่คอยให้บริการผู้ใช้งาน โดยจะเก็บรวมรวมไฟล์และ คำสั่งต่างๆ ที่มีนามสกุล เช่น .html, .css หรือ .js เป็นต้น ไฟล์ดังกล่าวจะถูกตอบสนองกลับไปแสดงผลที่เว็บ เบราว์เซอร์
API Server ทำหน้าที่ จัดการควบคุมการใช้งานข้อมูลของผู้ใช้งาน การควบคุมผู้ใช้งานในระดับที่แตก ต่างกัน เช่น ผู้ใช้งานทั่วไป กับ ผู้ใช้งานที่มีสิทธิเป็นผู้ดูแลระบบ มีสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลที่แตกต่างกัน กรณีที่ใช้ งานระบบร่วมกับผู้อื่น และ เป็นตัวกลางที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ใช้งานกับข้อมูลที่นำมาใช้งานในส่วนๆ หนึ่งของ เว็บเพจ
Application Programming Interface (API) คือ ช่องทางการเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล จาก ระบบหนึ่งไปสู่ระบบอื่นๆ โดยผ่าน library (Function/module/utility)ของผู้สร้างหรือให้บริการ API เพื่อให้ ผู้พัฒนาระบบอื่นๆ สามารถเชื่อมต่อกับ API ของผู้ที่เปิดให้บริการได้
สำหรับนักพัฒนา API ก็คือรูปแบบคำสั่งที่นักพัฒนาจะต้องเรียกใช้เมื่อ ต้องการเข้าถึงข้อมูลบนเว็บไซต์ ที่มีการเปิด API ไว้ให้ การเข้าถึงข้อมูลอาจเป็นทั้งการนำข้อมูลออกมา หรือเป็น การส่งข้อมูลเข้าไปก็ได้ API จึงเป็นเสมือนภาษาที่คอมพิวเตอร์ใช้คุยกับคอมพิวเตอร์เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลกัน ระหว่าง Server กับ Client หรือ Server กับ Server ด้วย
ข้อดีของ API
1. ทำให้สามารถรับส่งหรือเชื่อมต่อเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข้าม Server ได้
• ทำให้ Front-end developer สามารถเขียน AJAX ไปเรียกข้อมูลเอาไปแสดงผลได้เลย
• การ query ข้อมูลจากฐานข้อมูลนักพัฒนารู้แค่ว่าเมื่ออยากได้ข้อมูลต้อง request ไปที่ไหนและ return อะไรมาก็สามารถดึงข้อมูลจากฐานข้อมูลได้ไม่ต้องเขียนคำสั่ง SQL
• นักพัฒนาฝั่ง Front-end และ Back-end จริงๆ แล้วก็สามารถทำงาน parallel กันไปได้ โดยไม่ ต้องรอกัน
2. ทำให้ผู้พัฒนาระบบสามารถพัฒนาได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
• ทำให้ Front-end developer สามารถเขียน AJAX ไปเรียกข้อมูลเอาไปแสดงผลได้เลย
• การ query ข้อมูลจากฐานข้อมูลนักพัฒนารู้แค่ว่าเมื่ออยากได้ข้อมูลต้อง request ไปที่ไหนและ return อะไรมาก็สามารถดึงข้อมูลจากญานข้อมูลได้ไม่ต้องเขียนคำสั่ง SQL
• นักพัฒนาฝั่ง Front-end และ Back-end จริงๆ แล้วก็สามารถทำงาน parallel กันไปได้ โดยไม่ ต้องรอกัน
3. เสริมความปลอดภัยแก้ข้อมูลของตนเองในการแชร์ให้ผู้อื่น เพราะไม่ได้เข้าถึงฐานข้อมูลโดยตรง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น