ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ชีวิตดีขึ้นเมื่อรู้จักกับ Just in Time System

ชีวิตดีขึ้นเมื่อรู้จักกับ Just in Time System หรือ JIT

    หากคุณเป็นหนึ่งในคนที่มีปัญหาการแบ่งเวลาทำงานไม่ถูก งานเยอะเกินไปทำไม่ทันมาลองทำความเข้าใจกับระบบ Just in Time System กันเถอะ

Just in Time System

     คือ ระบบการส่งมอบวัตถุดิบ สินค้า หรือบริการที่ผู้ใช้ต้องการ ในเวลาที่ต้องการ และตรงตามจำนวนที่ต้องการจะใช้ โดยใช้ความต้องการของผู้ใช้เป็นสิ่งกำหนดปริมาณวัตถุดิบ สินค้า หรือบริการ
     พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำอย่างพอดี ๆ ไม่มากเกินไป และ ไม่น้อยเกินไปนั้นเองครับ

     วัตถุประสงค์หลัก ๆ ของ Just in Time
  • ต้องการควบคุมวัสดุคงคลังให้อยู่ในระดับที่น้อยที่สุดหรือเท่ากับศูนย์ ( Zero Inventory )
  • ต้องการลดเวลานำหรือระยะเวลารอคอยในกระบวนการผลิตให้น้อยที่สุดหรือเท่ากับศูนย์ ( Zero Lead Time )
  • ต้องการขจัดปัญหาของเสียที่เกิดขึ้นจากกาารผลิตให้เป็นศูนย์ ( Zero Failures )
  • ต้องการขจัดความสูญเปล่าในการผลิต
    • การผลิตมากเกินไป : ชิ้นส่วนและสินค้าถูกผลิตมากเกินความต้องการ
    • การรอคอย : การติดขัดด้านข้อมูล หรือการรอวัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในาการผลิต
    • การขนส่ง : ระยะทางที่มากเกินไป
    • กระบวนการผลิตขาดประสิทธิภาพ : มีการปฏิบัติงานที่ไม่จำเป็น
    • การมีวัสดุ หรือ สินค้าคงคลัง : มีวัตถุดิบและสินค้าสำเร็จรูปมากเกินไป
    • การเคลื่อนไหว : ผู้ปฏิบัติงานมีการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็น
    • การผลิตของเสีย  : ผลิตสินค้าออกมาไม่มีคุณภาพ
     คุณสมบัติของระบบ Just in Time
  • ช่วยลดสินค้าคงคลัง ทำให้ลดขนาดพื้นที่ในการเก็บ
  • สามารถกำหนดเวลาใรการรับรองได้
  • ลดค่าใช้จ่ายในการเก็บสินค้าคงคลัง การหยิบ การยกขน
  • ลดเวลาในการจัดเรียง การจัดเก็บสินค้า
     ลักษณะของระบบ Just in Time
  • Pull Method : ผลิตสินค้าเมื่อมีความต้องการ ทำให้มีสินค้าคงคลังต่ำ เหมาะกับการผลิตที่มีลักษณะสินค้าเหมือน ๆ กันเนื่องจากสามารถควบคุมสินค้าคงคลังได้ง่าย
  • Small Lot Size Ordering : การกำหนดการสั่งซื้อเท่ากับปริมาณที่จะใช้ในการผลิต ทำให้มีสินค้าคงคลังต่ำ
  • Automated Production : การผลิตแบบอัตโนมัติมีความสัมพันธ์กับ Just in Time System  การกำหนดแผนงาน เวลา ปริมาณการใช้วัสดุต้องสัมพันธ์กัน
  • Workstation Stabillity : การวางแผนการทำงานที่ดี
  • Good Relaiton : มีคามสัมพันธ์กับผู้จัดส่งที่ดี

แหล่งอ้างอิง

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การทำ Performance Testing ด้วย Postman

Performance Test คืออะไร? Performance Test คือการทดสอบซอฟต์แวร์หรือระบบ เพื่อประเมินความสามารถในการทำงานเมื่อมีภาระหรือโหลดต่างๆ เข้ามาในระบบ เช่น จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น, ปริมาณข้อมูลที่ถูกประมวลผล หรือความซับซ้อนในการทำงานของระบบ เหตุผลที่ต้องทำ Performance Test วัดความเร็วของระบบ (Speed) ช่วยให้ทราบว่าระบบสามารถตอบสนองต่อการร้องขอ (request) ได้เร็วเพียงใดในสภาวะการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อมีผู้ใช้จำนวนน้อยหรือมาก ประเมินความเสถียร (Stability) ตรวจสอบว่าระบบสามารถทำงานได้ต่อเนื่องภายใต้การทำงานหนักหรือโหลดที่สูง เช่นในช่วงที่มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก หรือในสถานการณ์ที่ต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ปรับปรุงประสิทธิภาพ (Optimization) ช่วยให้ระบุจุดอ่อนของระบบ เช่น API ที่ทำงานช้า หรือการใช้ทรัพยากรมากเกินไปในบางส่วน ซึ่งสามารถปรับปรุงได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานจริง (Real-World Readiness) การทดสอบช่วยให้เราทราบถึงการตอบสนองของระบบในสภาวะที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อปล่อยระบบให้ผู้ใช้ใช้งาน จะไม่เกิดปัญหาการโหลด...

Python: Chat bot &Text to Speech ภาษาไทย ด้วย gTTS

วันนี้จะมาแนะนำทุกๆ คนเกี่ยวกับ การเขียนโปรแกรมง่าย ๆ เพื่อให้คอมพิวเตอร์อ่านออกเสียงตามที่เราได้พิมพ์ให้ โดย ใช้ library คือ gTTS และ play sound จะมีวิธีการเขียนอย่างไร มาดูกันเลย เริ่มจากติดตั้ง package gTTS และ play sound ก่อน                                                                          pip install gTTS                                                                                pip install playsound                                                    ...

รวมชุดคำสั่ง Assembly ของ AVR

บทความนี้ได้รวบรวมชุดคำสั่งภาษา assembly ของไมโคคอนโทรลเลอร์ตระกูล AVR และสรุปการใช้งานเป็นภาษาไทยอย่างง่ายหากมีข้อผิดพลาด ขออภัยด้วยครับ ชุดคำสั่งทางคณิตศาสตร์และลอจิก add Rd, Rr   :   Rd + Rr เก็บผลลัพธ์ไว้ใน Rd adc Rd, Rr   :   Rd + Rr + Carry flag  เก็บผลลัพธ์ไว้ใน Rd mul Rd, Rr   :   Rd x Rr ได้ผลลัพธ์เป็น 16 bit เก็บไว้ใน R0, R1 sub Rd, Rr   :   Rd - Rr เก็บผลลัพธ์ไว้ใน Rd sbc Rd, Rr   :   Rd - Rr - Carry flag  เก็บผลลัพธ์ไว้ใน Rd and Rd, Rr   :   Rd and Rr แบบ bit ต่อ bit or Rd, Rr   :   Rd or Rr แบบ bit ต่อ bit eor Rd, Rr   :    Rd exclusive or Rr แบบ bit ต่อ bit com Rd   :   complement (กลับบิต) Rd neg Rd   :   2'complement (ติดลบ) Rd inc Rd   :   Rd++ dec Rd   :   Rd-- clr Rd   :   เคลียร์ bit Rd เป็น 0 ชุดคำสั่งเคลื่อนย้ายข้อมูล mov R...