ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มาเริ่มต้นรู้จักกับ HTML กันเถอะ Part II

มาเริ่มต้นรู้จักกับ HTML กันเถอะ

     ในบทความที่แล้วผมได้พูดถึงเนื้อหาความเป็นมาต่างๆของ HTML และก็เริ่มต้นใช้ HTML เบื้องต้นไปแล้ว ใครที่พลาดสามารถย้อนกลับไปดูเนื้อหาก่อนหน้าได้นะครับ ในบทความครั้งนี้ราจะมาดู Tag และ Element ต่างๆใน HTML กัน ไปต่อกันเลยครับ

     ทบทวนนะครับ Tag และ Element ต่างกันยังไง ?  Element ก็คือ Tag นั่นแหละครับแต่จะเป็น Tag ย่อยใน Tag หลัก อีกทีหนึ่ง เช่น 

<html> // Tag html
     <head> //Tag head เป็น Element ของ html 
     </head>
     <body>//Tag body เป็น Element ของ html 
          <h1> Hello World </h1> //Tag h1 เป็น Element ของ html 
     </body>
</html> 

แนะนำ Tag และ Element  ต่างๆที่ใช้กันบ่อยๆ

    อันดับแรก <head> คือ tage ที่แสดงรายละเอียดส่วนหัวของเว็บ

ภายใน tag <head> จะประกอบไปด้วย element 

     <title> ... </title> จะแสดงข้อความที่อยู่บน tab ของเว็บเบราว์เซอร์
     <meta ... />
     <link /> เป็น tag สำหรับใช้ import  ไฟล์ .css ที่เรานำมาใช้ในหน้าเว็บ โดยทำได้ดังนี้ 
          <link rel="stylesheet"  href"direct part ของไฟล์ที่นี้" >
     <style> ... </style> สามารถใส่ CSS code ที่นำไปใช้ในหน้าเว็บ
     <script> ... </script> สามารถใส่ Javascript  code ต่าง ๆ ได้
ต่อจาก <head> นะครับก็คือ
     <body> ... </body>  จะแสดงรายละเอียดส่วนของเนื้อหาในหน้าเว็บ

ภายใน tag <body> จะประกอบไปด้วย element มากมายโดยผมจะแนะนำที่เราใช้กันบ่อยๆๆนะครับ

     <h1> MiniG </h1> , <h2> MiniG </h2> ,  ... , <h6> MiniG  <h6> ใช้สำหรับแสดงข้อความที่เราใช้เป็นหัวข้อ เช่น

     <p> ... </p> ใส่ข้อความเป็น paragraph เช่น 

     <a  href" ... "> ... </a> ใส่ลิ้งให้ข้อความโดยใส่ direct part ที่ต้องการใน href" ..."

      <br> ขึ้นบรรทัดใหม่
     <div> ... </div> กำหนดให้ element ที่อยู่ภายใน tag นี้ล้อมลอบไปด้วย block หรือ container เป็นพื้นที่สี่เหลี่ยม
     <img src=" ... " alt=" ... " > แสดงรูปภาพตาม url ใน src=" ... " ส่วน alt=" ... " จะบอกว่าภาพที่เรียกว่าอะไรคล้ายคำอธิบายรูปภาพแต่ไม่แสดงให้เห็น

<table>
  <tr>
    <th>Firstname</th>
    <th>Lastname</th> 
    <th>Age</th>
  </tr>
  <tr>
    <td>Jill</td>
    <td>Smith</td> 
    <td>50</td>
  </tr>
  <tr>
    <td>Eve</td>
    <td>Jackson</td> 
    <td>94</td>
  </tr>
</table>                            ตัวอย่างจาก W3

      แสดงรายละเอียดต่างๆเป็นตาราง <th> : หัวข้อของตารางแต่ละ colum <tr> : ข้อมูลแต่ละแถว
<td> ข้อมูลในแต่ละแถวโดยแสดงไปเรื่อยๆตามจำนวน colum
ผลลัพธ์

     <ul>
          <li>Coffee</li>
          <li>Tea</li>
          <li>Milk</li>
     </ul>                            ตัวอย่างจาก W3

      แสดงเป็น list โดยสามารถใส่ style ได้ใน style = " ... " โดยใน html จะมีด้วยกัน 4 style คือ none, disc, circle และ square ดูได้จากรูป
ผลลัพธ์ 

     <iframe src=" ... " ></iframe> จะแสดง เนื้อหาภายใน url ที่เราใส่ไว้ใน src = " ... " ตัวอย่างจาก W3
สามารถใส่ link วิดิโอได้เช่นกัน
     เท่านี้เราก็ทราบเกี่ยวกับ Tag และ Element ต่างๆที่มีใน html กันแล้วนะครับ อาจจะมีตกหล่นอยู่บ้างโดยสามารถไปศึกษาเพิ่มเติมได้ที่ www.w3schools.com หากบทความดังกล่าวมีเนื้อหาผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับผม

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การทำ Performance Testing ด้วย Postman

Performance Test คืออะไร? Performance Test คือการทดสอบซอฟต์แวร์หรือระบบ เพื่อประเมินความสามารถในการทำงานเมื่อมีภาระหรือโหลดต่างๆ เข้ามาในระบบ เช่น จำนวนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น, ปริมาณข้อมูลที่ถูกประมวลผล หรือความซับซ้อนในการทำงานของระบบ เหตุผลที่ต้องทำ Performance Test วัดความเร็วของระบบ (Speed) ช่วยให้ทราบว่าระบบสามารถตอบสนองต่อการร้องขอ (request) ได้เร็วเพียงใดในสภาวะการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมื่อมีผู้ใช้จำนวนน้อยหรือมาก ประเมินความเสถียร (Stability) ตรวจสอบว่าระบบสามารถทำงานได้ต่อเนื่องภายใต้การทำงานหนักหรือโหลดที่สูง เช่นในช่วงที่มีจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก หรือในสถานการณ์ที่ต้องประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก ปรับปรุงประสิทธิภาพ (Optimization) ช่วยให้ระบุจุดอ่อนของระบบ เช่น API ที่ทำงานช้า หรือการใช้ทรัพยากรมากเกินไปในบางส่วน ซึ่งสามารถปรับปรุงได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เตรียมพร้อมสำหรับการใช้งานจริง (Real-World Readiness) การทดสอบช่วยให้เราทราบถึงการตอบสนองของระบบในสภาวะที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อปล่อยระบบให้ผู้ใช้ใช้งาน จะไม่เกิดปัญหาการโหลด...

Python: Chat bot &Text to Speech ภาษาไทย ด้วย gTTS

วันนี้จะมาแนะนำทุกๆ คนเกี่ยวกับ การเขียนโปรแกรมง่าย ๆ เพื่อให้คอมพิวเตอร์อ่านออกเสียงตามที่เราได้พิมพ์ให้ โดย ใช้ library คือ gTTS และ play sound จะมีวิธีการเขียนอย่างไร มาดูกันเลย เริ่มจากติดตั้ง package gTTS และ play sound ก่อน                                                                          pip install gTTS                                                                                pip install playsound                                                    ...

รวมชุดคำสั่ง Assembly ของ AVR

บทความนี้ได้รวบรวมชุดคำสั่งภาษา assembly ของไมโคคอนโทรลเลอร์ตระกูล AVR และสรุปการใช้งานเป็นภาษาไทยอย่างง่ายหากมีข้อผิดพลาด ขออภัยด้วยครับ ชุดคำสั่งทางคณิตศาสตร์และลอจิก add Rd, Rr   :   Rd + Rr เก็บผลลัพธ์ไว้ใน Rd adc Rd, Rr   :   Rd + Rr + Carry flag  เก็บผลลัพธ์ไว้ใน Rd mul Rd, Rr   :   Rd x Rr ได้ผลลัพธ์เป็น 16 bit เก็บไว้ใน R0, R1 sub Rd, Rr   :   Rd - Rr เก็บผลลัพธ์ไว้ใน Rd sbc Rd, Rr   :   Rd - Rr - Carry flag  เก็บผลลัพธ์ไว้ใน Rd and Rd, Rr   :   Rd and Rr แบบ bit ต่อ bit or Rd, Rr   :   Rd or Rr แบบ bit ต่อ bit eor Rd, Rr   :    Rd exclusive or Rr แบบ bit ต่อ bit com Rd   :   complement (กลับบิต) Rd neg Rd   :   2'complement (ติดลบ) Rd inc Rd   :   Rd++ dec Rd   :   Rd-- clr Rd   :   เคลียร์ bit Rd เป็น 0 ชุดคำสั่งเคลื่อนย้ายข้อมูล mov R...